เฝ้าระวัง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ช่วงหน้าฝน

ในช่วงฤดูฝน หลายพื้นที่ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำฝนและน้ำไหลบ่าตกลงมาผสมกับน้ำในบ่อเดิม ในเวลาเดียวกันอุณหภูมิอากาศจะลดลง ความดันบรรยากาศมักจะค่อนข้างต่ำในช่วงแรกของฝนและบางครั้งก็เกิดขึ้นกับลมแรงทำให้สภาวะอากาศ อุณหภูมิในน้ำ ออกซิเจนและค่าพีเอชในน้ำมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ส่งผลให้สัตว์น้ำที่เกษตรกรเลี้ยงอยู่ไว้ในบ่อดิน รวมถึงในกระชังปรับตัวไม่ทัน เกิดความเครียด อ่อนแอ เสี่ยงที่จะเกิดโรคได้ง่าย และตายอย่างฉับพลันได้ กรมประมง

ฝนส่งผลกับน้ำ และระบบนิเวศในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อย่างไรบ้าง

• pH พีเอช

ค่า pH ของน้ำฝนส่วนใหญ่ต่ำกว่า 6.6 ในขณะที่ค่า pH ที่เหมาะสมในน้ำเพาะเลี้ยงบ่ออยู่ที่ประมาณ 7.7-8.2 นอกจากนี้การสังเคราะห์แสงจะได้รับผลกระทบเนื่องจากแสงแดดที่ลดลงในช่วงฝนตก

• ความเค็ม

ปริมาณความเค็มในน้ำฝนอยู่ในระดับต่ำ หลังจากฝนตกหนักความเค็มจะลดลง

• อ๊อกซิเจน

การสังเคราะห์แสงของสาหร่ายจะต่ำลงเพราะปริมาณแสงแดดน้อยลง ทำให้การปล่อยอ๊อกซิเจนในน้ำน้อยลง

• ความขุ่น

น้ำฝนเป็นตัวนำพาแข็งที่ไม่ละลายน้ำจํานวนมากลงไปในน้ำ นําไปสู่การเพิ่มขึ้นของปริมาณสารแขวนลอยและเพิ่มความขุ่นของน้ำได้

การเตรียมรับมือกับความเปลื่ยนแปลงของสภาพน้ำในหน้าฝน

หลังฝนตก ควรใส่ SYMBIO 10 กรัมต่อไร่ 2 เวลา เช้า-เย็น เพื่อย่อยสารอินทรีย์แขวนลอยในน้ำ ช่วยคุมสภาพน้ำหลังจากฝนตก