ค่าพีเอชที่เหมาะสมกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ควรเป็นเท่าไหร่?
- Aquamimicry อความิมิครี
- 13 มิ.ย. 2566
- ยาว 1 นาที
ค่าพีเอชในช่วงเช้า จะต่างกับช่วงบ่าย เนื่องจากตอนกลางคืน ของเสียในน้ำทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำ ส่งผลให้ดินปล่อยกรดคาร์บอนิกมาย่อยสลายของเสีย ค่าออกซิเจนในน้ำและค่าพีเอชจะต่ำลง ส่วนในช่วงบ่าย แพลงตอนพืชจะดึงคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ และคลายออกซิเจนออกมา ส่งผลให้เวลากลางวันค่าพีเอชและค่าออกซิเจนจะเยอะกว่าในช่วงเช้า
ดังนั้นวัดคุณภาพน้ำ ควรวัดวันละ 2 รอบ คือ ช่วงเช้า และช่วงบ่าย โดยค่าพีเอชระหว่างวันไม่ควรต่างกันเกิน 0.3 - 0.5 แต้ม โดยในช่วงเช้าปกติค่าพีเอชจะอยู่ที่ 7.7 - 7.9 และไม่เกิน 8.1 - 8.2 ในช่วงบ่าย (สำหรับพื้นที่น้ำจืด ค่าพีเอชจะอยู่ที่ 7.9 - 8.2 ในช่วงเช้า และไม่ควรเกิน 8.5 ในช่วงบ่าย)
คุมค่าพีเอชยังไง?
หากในบ่อมีของเสียเยอะจะส่งผลให้ค่าพีเอชของน้ำในรอบวันมีการเปลื่ยนแปลงมาก และส่งผลให้กุ้งเครียด ทำให้การกินอาหารและการเจิรญเติบโดตลดลง จึงควรรักษาระดับพีเอชให้ไม่ต่างกันเกินไปด้วยการย่อยสลายของเสีย หรือสารอินทรีย์ในน้ำ เพื่อรักษาสมดุลในน้ำด้วย ซิมไบโอ จุลินทรีย์เข้มข้น ปรับสภาพน้ำ
สำหรับการคุมสภาพน้ำทั่วไป ใช้ซิมไบโอ 1 ซอง ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ผสมน้ำ 5 ลิตร และสาดหน้าใบทุกๆ 7 วัน
สำหรับน้ำที่มีปัญหาของเสียเยอะ ใช้ซิมไบโอ 1 ซอง ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ผสมน้ำ 5 ลิตร และสาดหน้าใบต่อเนื่องวันละ 2 เวลา เช้า และเย็น เป็นเวลา 3 - 5 วัน หรือจนกว่าคุณภาพน้ำจะสมดุล

Comments